วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การทำบุญเลี้ยงพระ9รูปที่ร้านข้าวมันไก่หน้าหมู่บ้าน

การทำบุญเลี้ยงพระ9รูป ( วันที่ 12 สิงหาคม 2552 )
- ที่ร้านข้าวมันไก่หน้าหมู่บ้าน
- ถวายปัจจัย
- ถวายที่โกนหนวด
การทำบุญฝ่ายรักษาความสะอาด โดยนิมนต์พระมาทำบุญที่อยู่ใหม่

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ก่อสร้างพระเจดีย์ทราย

17 อานิสงส์ก่อสร้างพระเจดีย์ทราย
....ในเมื่อพระองค์เสด็จประทับอยู่ ณ บุพพารามมหาวิหารในนครสาวัตถีได้เทศนาถึงอานิสงส์ก่อเจดีย์ทรายแล้วตั้งความปรารถนาไว้ เป็นใจความว่าวันหนึ่งเป็นฤดูร้อนอากาศร้อนอบอ้าวมาก พระเจ้าปัสเสนทิโกศลทรงพักผ่อนพระอิริยาบถให้สบาย ณ หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำไม่ห่างจากพระนครเท่าใดนักได้ทรงทอดพระเนตรเห็นทรายขาวสะอาดราบเรียบดีนัก มีพระดำริว่าควรทำเป็นรูปเจดีย์ขึ้น เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ดีกว่าที่เราจะมาเดินเล่นโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อทรงดำริเช่นนั้น แล้วก็รีบลงมือก่อเป็นรูปเจดีย์ด้วยพระองค์เอง พวกบริวารทั้งหลายที่ตามเสด็จ ก็ลงมือก่อตามไปด้วย เมื่อสำเร็จแล้วมองก็เป็นทิวแถวสวยงามเกิดมีความปิติยินดีเป็นที่ยิ่ง เพราะนับดูแล้วมี ๘ หมื่น ๔ พันองค์พระบรมกษัตริย์ทรงโสมนัสเป็นยิ่งนัก ก็เสด็จกลับมาสู่บุพพารามมหาวิหารถวายอภิวาท แล้วก็นั่งอยู่ส่วนข้างหนึ่งแล้วกราบทูลถึงอานิสงส์ของการก่อพระเจดีย์ทรายบูชาพระรัตนตรัย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำมาแล้ว โดยตลอด
.... พระพุทธองค์ทรงโปรดประทานพระธรรมเทศนาว่า มหาราชดูกรมหาบพิตรนรชนหญิงชายทั้งหลายเหล่าใด มีศรัทธาเลื่อมใสอุตสาห์พากเพียรพยายาม ทำการก่อสร้างพระเจดีย์ทรายใหญ่น้อยก็ดี มีจำนวนถึง ๘ หมื่น ๔ พันองค์นั้น หรือว่าจะมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า ก็จะไม่ไปสู่อบายภูมิตลอดร้อยชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติบริวารเป็นอันมาก ครั้นตายไปจากมนุษย์โลก ก็จะไปเกิดในสวรรค์เสวยทิพย์สมบัติ แม้พระตถาคตก็เคยได้กระทำมาแล้ว ในครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีอยู่แล้วพระองค์นำอดีตนิทานมาแสดงต่อไปว่า
ครั้งนั้นพระตถาคตได้เกิดในตระกูลอนาถา พอเจริญวัยขึ้นก็ต้องเข้าป่าแสวงหาฟืนมาขายเลี้ยงชีพ กระทำอย่างนี้เป็นอาจิณ อยู่มาวันหนึ่งได้เห็นทรายขาวสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องในราวป่า ก็มีจิตผ่องใสศรัทธาใคร่จะก่อพระเจดีย์บูชาพระรัตนตรัย จึงสละเวลาไม่ตัดฟืนทั้งวัน ได้ก่อพระเจดีย์ทรายเสร็จแล้วได้ฉีกผ้าห่มผืนหนึ่งปักเป็นธงชัย แล้วบูชาพระรัตนตรัยในพุทธบาทศาสดาของพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วตั้งความปรารถนาว่า ขอให้ข้าพเจ้าได้สำเร็จพระโพธิญาณ ในอนาคตกาลโน้นเทอญ ครั้นทำลายขันธ์แล้วไปเกิดอยู่ชั้นดาวดึงส์มีวิมานสูง ๑๒ โยชน์ เสวยทิพย์สมบัติอยู่ถึง ๒ พันปีทิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัยแล้วได้จุติมาเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพาราณสี ได้ท่องเที่ยวอยู่ในมนุษย์โลก บำเพ็ญบารมีญาณจนเต็มเปี่ยมดีแล้ว จึงได้มาอุบัติเป็นพระตถาคต ดังที่มหาบพิตรปรารภอยู่ขณะนี้ เมื่อจบพระธรรมเทศนาลงแล้ว พระเจ้าปัสเสนทิโกศล พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายก็มีความยินดีโสมนัส ในการที่พระองค์ทรงก่อ พระเจดีย์ทรายบูชาคุณพระรัตนตรัยโดยไม่เปล่าประโยชน์

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันที่ 7 สิงหาคม 2552 (วันรพี)

ข้าพเจ้าได้ทำบุญ เช้าเวลา 8.00 น ดังนี้
1. ใส่บาตรพระ จำนวน 3 รูป อุทิศให้แก่ หลวงตาแสน อายุ 69 ปี สูง171 ซม. ได้ทำค้านวัดหักและสายสินธ์ พันกัน
1.อาหาร คาคหวาน พร้อมน้ำ
2.ที่โกนหนวด จำนวน 3 อัน

อาจารย์ศุภกิจ




กรรมในอดีตจนถึงปัจจุบันของกฤชณัท